ความสัมพันธ์ระหว่างสีกับความยั่งยืน - เอส เค เค ไทยแลนด์ / ผลิตภัณฑ์สีเท็กเจอร์และแผ่นตกแต่งสำเร็จรูป

สำหรับสถาปนิก เข้าสู่ความยั่งยืน

2023.12.05 Functional

ความสัมพันธ์ระหว่างสีกับความยั่งยืน
-สนับสนุนอนาคตที่ยั่งยืนผ่านการทาสี/การเคลือบ-

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ปกติจะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในรอบหลายทศวรรษได้เกิดขึ้นเกือบทุกปี จำนวนภัยพิบัติขนาดใหญ่ก็เพิ่มขึ้นทุกปีเช่นกัน

แนวคิดเรื่องความยั่งยืนที่ได้ยินกันโดยทั่วไปไม่ได้เป็นเพียงกระแสชั่วคราว แต่ยังถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญสำหรับอนาคตของสังคม อย่างไรก็ตาม สีมีทั้งผลกระทบเชิงบวกและเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม

ดังนั้นความรับผิดชอบต่อสังคมสามารถเติมเต็มอะไรได้บ้าง?

เราแต่ละคนสามารถมีส่วนร่วมในอนาคตที่ยั่งยืนผ่านการทาสีและการเคลือบได้อย่างไร

การเลือกสีและสารเคลือบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

สีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมช่วยลดและบรรเทาภาระต่อผู้คน สิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล้อมของโลก
นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาว่าสารเคมีบางชนิดอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม การใช้สีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยังช่วยลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับมนุษย์อีกด้วย

ประเภทและลักษณะของสีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (สมาคมผู้ผลิตสีแห่งประเทศญี่ปุ่น)

วัตถุประสงค์	ฟังก์ชัน	ประเภทของสี/สารเคลือบ
การลดมลพิษทางอากาศ	VOC ต่ำ (สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย)	สูตรน้ำ (VOC น้อยกว่า 1%)
การลดผลกระทบต่อสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม	ลดสารอันตราย	ปราศจากโทลูอีน/ไซลีน, ปราศจากสารตะกั่ว/โครเมียม
การลดผลกระทบต่อสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม	ฟังก์ชั่นการปรับปรุงสิ่งแวดล้อม	ต่อต้านแบคทีเรีย, ป้องกันเชื้อราป้องกันตะไคร่น้ำ
การอนุรักษ์ทรัพยากร	อายุการใช้งานยาวนานขึ้น	ทนทานสูง ทนต่อสภาพอากาศได้สูง
การประหยัดพลังงาน	ลดพลังงานด้วยฟิล์มสี	สะท้อนความร้อน

การลดมลพิษทางอากาศ

สี/สารเคลือบมีสองประเภทหลัก: ประเภทน้ำมันและประเภทน้ำ
สีน้ำมันมีสาร VOC (สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย) ในปริมาณมาก ซึ่งเป็นสาเหตุของมลพิษทางอากาศ จากมุมมองของความยั่งยืน สิ่งสำคัญคือต้องใช้สีที่ไม่มีสารอินทรีย์ระเหยง่ายหรือมีปริมาณน้อยที่สุด
ในอดีตสี/สารเคลือบส่วนใหญ่เป็นน้ำมัน เมื่อเวลาเปลี่ยนไป สัดส่วนของสีน้ำก็เพิ่มขึ้น สีน้ำไม่มีสาร VOC หรือมีระดับต่ำมาก จึงช่วยลดความเสี่ยงของมลพิษทางอากาศ ในแง่ของประสิทธิภาพมี สี/สารเคลือบสูตรน้ำที่ใช้งานได้ดีหลายประเภท
ผลิตภัณฑ์ที่มีสาร VOCต่ำมีผลกระทบต่อคุณภาพอากาศภายในอาคารน้อยกว่า จึงส่งเสริมสภาพแวดล้อมในการดำรงชีวิตที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น

จุดสำคัญ!

การใช้สีน้ำและสีที่มีสาร VOC ต่ำมีส่วนช่วยในการป้องกันมลพิษทางอากาศ ทำให้เป็นความคิดริเริ่มที่ยั่งยืนที่ส่งเสริมทั้งการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์

การลดผลกระทบด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

กฎระเบียบเกี่ยวกับสารอันตรายที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมมีความ
เข้มแข็งขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป ตัวอย่างเช่น สำหรับสี/สารเคลือบที่มีสารตะกั่ว ได้มีการนำกฎระเบียบทางกฎหมายทั่วโลกมาใช้ ความพยายามในการกำจัดกำลังดำเนินการอยู่
สำหรับการตกแต่งภายใน คุณสมบัติต่างๆ เช่น คุณสมบัติต้านแบคทีเรียและเชื้อรา มีส่วนช่วยปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการอยู่อาศัย

◆ การลดสารอันตราย
ปราศจากโทลูอีน/ไซลีน ปราศจากสารตะกั่ว/โครเมียม กลิ่นต่ำ
◆ ฟังก์ชั่นการปรับปรุงสิ่งแวดล้อม
สีทนสิ่งสกปรก สีป้องกันแบคทีเรีย สีป้องกันเชื้อรา/ป้องกันตะไคร่น้ำ

จุดสำคัญ!

เพื่อให้บรรลุอนาคตที่ยั่งยืน SKK มุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับทั้งผู้คนและสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมสุขภาพ ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และความรู้สึกมั่นคง

การอนุรักษ์ทรัพยากร

ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความทนทานและทนต่อสภาพอากาศสูง เช่น ซิลิโคนเรซินและสีที่มีฟลูออรีนเรซิน ความถี่ในการทาสีใหม่จึงสามารถลดลงได้ ซึ่งมีส่วนช่วยในการอนุรักษ์ทรัพยากรและลดของเสีย ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดต้นทุนได้ในระยะยาว ช่วยให้สามารถรักษาอาคารได้ในระยะยาว ป้องกันการปฏิบัติงานเรื่องเศษซากและการก่อสร้างที่มากเกินไป

มาตรการในการยืดอายุการใช้งานและป้องกันการเสื่อมสภาพของอาคาร

เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งสำคัญคือต้องมุ่งเน้นไปที่ "การยืดอายุขัย" และ "มาตรการรับมือกับรอย" ในเรื่องนี้ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทนทานต่อสภาพอากาศสูง เช่น ประเภทเรซินซิลิโคนและเรซินฟลูออรีนสำหรับภายนอกก็มีส่วนช่วยอย่างมากเช่นกัน

จุดสำคัญ!

การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ทำจากซิลิโคนหรือฟลูออรีนเรซินสามารถยืดอายุการใช้งาน
ของอาคารได้ ซึ่งมีส่วนช่วยในอนาคตที่ยั่งยืน

การลดของเสียและการรีไซเคิล

ความพยายามในการลดของเสียที่เกิดขึ้นระหว่างการผลิตและการใช้สี ควบคู่ไปกับการกำจัดอย่างเหมาะสม มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ การสร้างกระบวนการรีไซเคิลสามารถลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการกำจัดขยะได้

การใช้วัตถุดิบหมุนเวียน

เพื่อก้าวไปสู่ความยั่งยืน การใช้วัตถุดิบและทรัพยากรหมุนเวียนจึงมีความสำคัญ ในความเป็นจริง วัสดุฉนวนความร้อนที่ไม่ติดไฟของเราใช้โฟมาไตรีนรีไซเคิลเป็นส่วนผสม

จุดสำคัญ!

ดำเนินการอย่างยั่งยืนในการเลือกวัตถุดิบ การจัดการของเสีย และการรีไซเคิล

การประหยัดพลังงาน

จากมุมมองด้านประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การเคลือบสะท้อนความร้อนพิสูจน์ได้ว่ามีประสิทธิภาพ
สารเคลือบเหล่านี้จะสะท้อนรังสีอินฟราเรดในแสงแดด ช่วยลดอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นของหลังคาและผนังด้านนอก จึงช่วยลดต้นทุนเครื่องปรับอากาศ การลดต้นทุนด้านพลังงานยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอีกด้วย

จุดสำคัญ!

สารเคลือบสะท้อนความร้อนสามารถช่วยป้องกันภาวะโลกร้อนและมาตรการ
รับมือเกาะความร้อน

ส่งเสริมนวัตกรรมและการวิจัย

ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีสีใหม่ๆ และสี/สารเคลือบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมสีสามารถตอบสนองต่อความยั่งยืนและมีส่วนสนับสนุนที่ สำคัญ การวิจัย การพัฒนา และนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์สีที่มีความยั่งยืนมากขึ้น

โดยสรุป ความยั่งยืนในขอบเขตของสี/การเคลือบมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับการลดสารอันตราย การส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่ทนทาน/ทนต่อสภาพอากาศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการปฏิบัติตามความรับผิดชอบในการผลิตและการจัดการของเสีย

ด้วยความพยายามเหล่านี้ สีสามารถมีบทบาทในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิผลในสังคมที่ยั่งยืน

ยิ่งไปกว่านั้น เราแต่ละคนสามารถมีส่วนร่วมในอนาคตที่ยั่งยืนได้ ขึ้นอยู่กับวิธีที่เราเลือกสี/สารเคลือบที่เราใช้

แนวโน้มการปล่อยสารอินทรีย์ระเหยง่ายจากสี (ระหว่างพ่นสี) (ในญี่ปุ่น)